หมวด ปรัชญาจริยะ

เรื่อง :  ความดี

Topic: good, the
ผู้แต่ง : ศุภชัย ศรีศิริรุ่ง

ความประพฤติ “ดี” คืออะไร นั้นเป็นปัญหาที่ดึงดูดมนุษย์ให้พยายามแสวงหาคำตอบที่เป็นไปได้กันต่อไปทุกยุคสมัย พอจะประมวลนิยามความ “ดี” ผ่านการตีความตามกรอบกระบวนทรรศน์ต่าง ๆ ได้ดังนี้

กระบวนทรรศน์ดึกดำบรรพ์ ถือว่าการประพฤติดีนั้นคือความพยายามอย่างที่สุดที่จะรู้น้ำพระทัยของเบื้องบนและปฏิบัติตาม

กระบวนทรรศน์โบราณ แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่

๑. กลุ่มศาสนา ถือว่า ความดี ได้แก่ความประพฤติตามกฎเกณฑ์ที่ศาสนาวางไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อความหลุดพ้น เช่น ในพระพุทธศาสนา ความดีคือความดับทุกข์ได้ตามลำดับขั้นของการพัฒนาจิตใจและปัญญา

๒. กลุ่มพอใจนิยม (satisfactionism) ถือว่า ความดี ได้แก่การได้ใช้ชีวิตในโลกนี้อย่างฉลาดให้ได้เปรียบที่สุดจนพอใจ มีหลายลัทธิก็ตีความ “ความพอใจ” ที่แตกต่างกันออกไป เช่น
ลัทธิซาฟฟิสม์ (Sophism) ได้แก่การได้ทำตามที่ชอบ ชอบอะไรได้ทำตามนั้นคือความดี
ลัทธิรตินิยม (Hedonism) ได้แก่การกอบโกยหาความบันเทิงให้มากที่สุดในทุกโอกาส
ลัทธิเอพเพอคีวเรียน (Epicureanism) ได้แก่ การรู้จักประมาณตนในการหาความบันเทิงให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจถนอมไว้เสวยสุขนาน ๆ
ลัทธิสโทว์อิก (Stoicism) ได้แก่การพอใจกับสิ่งที่จำเป็นในชีวิตเท่านั้น
ลัทธิซีนนิก (Cynicism) ได้แก่ การพอใจกับความรู้สึกว่าไม่ต้องการอะไรเลย ดำเนินชีวิตเหมือนสุนัข หิวเมื่อใดค่อยหากิน ไม่หิวก็ไม่สนใจเก็บหรือหวงไว้

๓. กลุ่มหาความรู้ (intellectualism) ได้แก่ กลุ่มนักปรัชญากรีก Socrates Plato และ Aristotle ต่างมุ่งหาความรู้เพื่อให้พบความจริงแท้ ถือว่า คุณธรรมคือความรู้ความเป็นจริง (Virtue is knowledge) และก็กล่าวต่อไปด้วยว่า ความรู้สอนกันไม่ได้ (Virtue cannot be taught) ซึ่งหมายความว่า รู้ตามที่เรียนมาไม่พอ ต้องปฏิบัติตามที่รู้ด้วย นักปรัชญาแต่ละท่านต่างก็เสนอความเป็นจริงตามทัศนะของตน ไว้ให้ศึกษา

กระบวนทรรศน์ยุคกลาง มีศาสนาใหญ่เกิดขึ้น ๒ ศาสนา คือ ศาสนาคริสต์และอิสลาม ถือว่าความดีคือความศรัทธาประพฤติตามน้ำพระทัยของพระเจ้าตามคำสั่งสอนของศาสดา หรือ วิวรณ์นิยม (apocalyptism)

กระบวนทรรศน์นวยุค เสนอคำตอบ ๓ แนวโดยไม่ต้องพึ่งศาสนา

๑. ความดีคือจงทำตามหน้าที่ ที่จะให้เป็นสากล เรียกว่า พันธนิยม (deontologism)
๒. ความดี คือจงทำเพื่อประโยชน์ ได้ทั้ง เพื่อประโยชน์ส่วนตัว และเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเรียกว่า ประโยชน์นิยม (utilitarianism)
๓. ความดี คือจงทำตามประเพณี เรียกว่า ขนบนิยม (traditionalism)

กระบวนทรรศน์หลังนวยุค ยอมรับว่าความดีนั้นมีอยู่แต่นิยามไม่ได้ หรือแม้จะนิยามได้ก็มีหลากหลายความคิด ต่าง ๆ นานา ไม่ตายตัว ขึ้นกับการตีความตามกรอบกระบวนทรรศน์ของคนในสังคม ซึ่งมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย จึงแนะนำให้ไม่ละเลยหรือมองข้ามคุณค่าทางจริยธรรมไม่ว่าในรูปแบบใด ที่จะสามารถนำมาใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตได้จริง ความดีจึงได้แก่ความประพฤติทุกรูปแบบที่สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของแต่ละบุคคลให้สูงขึ้นกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วยการสร้างสรรค์ ปรับตัว ร่วมมือและแสวงหา เรียกว่าปรัชญาหลังนวยุค (postmodern philosophy) อันเป็นเนื้อหาเดียวกันกับจริยศาสตร์หลังนวยุค (postmodern ethics) อันได้แก่ รู้และปฏิบัติตามความสามารถ ศักยภาพและบริบท ที่มีอยู่แตกต่างกันของแต่ละบุคคลและสังคม


Leave a comment