
สัญชาตญาณปัญญา
intellectual instinct
ผู้แต่ง : เอนก สุวรรณบัณฑิต
ผู้ปรับแก้: กีรติ บุญเจือ
มนุษย์ประกอบด้วยสสารและแบบ ทำให้เกิดปัญญา เมื่อมีปัญญาย่อมมีสัญชาตญาณปัญญา อันเป็นสัญชาตญาณระดับสูงสุดของมนุษย์ คือสูงกว่าสัญชาตญาณก้อนหิน สัญชาตญาณพืช และสัญชาตญาณอารักขายีน และเป็นสัญชาตญาณที่มีในชีวิตมนุษย์แต่ละคนอยู่แล้ว แต่มนุษย์ในฐานะเป็นบุคคลมีปัญญาจึงมีสัญชาตญาณทั้ง 4 ที่แข่งขันกันทำหน้าที่เป็นผู้นำ และใช้สัญชาตญาณอื่นๆ เป็นผู้ตาม มนุษย์พึงใช้ปัญญาหาความสุขตามสัญชาตญาณปัญญาเพื่อแสดงความฉลาดแท้ของตน ยิ่งกว่านั้นพึงใช้ปัญญาให้ฉลาดขึ้นไปอีกคือ ใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส โดยหลอกล่อให้สัญชาตญาณระดับต่ำในตนคือ หลอกล่อสัญชาตญาณก้อนหินที่ชอบรับบริการโดยให้มันดูแลร่างกายให้ดูสดสวยงดงาม แต่ขณะเดียวกันมนุษย์ก็ได้ความสุขตามสัญชาตญาณปัญญา หลอกล่อสัญชาตญาณพืชที่ชอบกอบโกยอาหารใส่ตนโดยให้หาอาหารบำรุงร่างกายตนและแสวงหาประโยชน์ต่างๆ มาเตรียมพร้อมไว้สำหรับการแสวงหาขั้นสูงที่จะให้มนุษย์ได้ความสุขตามสัญชาตญาณปัญญาอย่างไม่อั้นต่อไป รวมถึงหลอกล่อสัญชาตญาณอารักขายีน ให้ได้มีความสุขตามสัญชาตญาณของมันให้ต่อยอดของความรัก ความเป็นมิตร และการอยู่ร่วมกันดุจพี่น้อง อันจะทำให้มันบริการมนุษย์ได้ความสุขตามสัญชาตญาณปัญญา สัญชาตญาณระดับต่ำกว่าปัญญาทั้งสามล้วนแต่ระดมความเห็นแก่ตัว เพื่อความอยู่รอดของแต่ละตัวตนที่ใช้สัญชาตญาณอย่างยึดมั่นถือมั่น หากกระทบกระทั่งกันก็จะทำลายกันและกัน และถึงขั้นทำลายตัวตนของตนเองก็ได้ จึงถือเป็นปฏิปักษ์ต่อคุณธรรมและความสุข
มนุษย์มีสัญชาตญาณปัญญาจึงพยายามหาโอกาสแสดงตนว่าไม่เหมือนสัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย ไม่เหมือนแม้สัตว์ชั้นสูงที่มีรูปร่างทรวดทรงเหมือนกับตนแต่ไม่พัฒนาเป็น มนุษย์ คือ สามารถฝืนไม่เอาด้วยกับสัญชาตญาณที่ต่ำกว่า เช่น ฝืนสัญชาตญาณก้อนหินที่มีความสุขกับการอยู่เฉย ๆ โดยการออกไปหาอาหาร เดินเล่น ฝืนสัญชาตญาณพืชที่เน้นกอบโกยโดยแบ่งส่วนอาหารดี ๆ ที่ตนอยากกินแก่บุตรภรรยา ฝืนสัญชาตญาณอารักขายีนที่มุ่งถ่ายทอดยีนให้มากที่สุด เป็นการเลือกคู่ที่ตนพึงใจและรักเฉพาะคู่ของตน ในขณะเดียวกันก็อาจฝืนสัญชาตญาณปัญญาโดยตัดสินใจทำแปลกแหวกแนวได้ไปจากคนอื่นๆ ได้ จนสัญชาตญาณมีการพัฒนาตัวเองเป็นกระบวนทรรศน์ทางปัญญาซึ่งนำไปสู่ความเจริญในระดับอารยธรรมนั่นเอง
