ad ignorantiam, appeal to ignorance อ้างความไม่รู้
ผู้แต่ง : รวิช ตาแก้ว
ผู้ปรับแก้ : กีรติ บุญเจือ
ภาษาละตินอ่านว่า “อั๊ด อิ๊กโนรันเซียม” แปลเหมือนภาษาอังกฤษ อ้างความไม่รู้ มี 2 แบบ คือ อ้างความไม่รู้ของตนเอง (appeal to one’s own ignorance) และอ้างความไม่รู้ของผู้อื่น (appeal to the opponent’s ignorance)
อ้างความไม่รู้ของตนเอง คือ อ้างว่าตัวเองไม่สามารถจะรู้เรื่องนั้นได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนั้นหรือสิ่งนั้นจะเป็นความจริงหรือมีจริงไม่ได้ เช่น
“ผีไม่มี เพราะวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้” เรื่องผีอาจจะไม่ใช่เรื่องในขอบข่ายของวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน ในอนาคตเราอาจจะมีวิธีการอะไรใหม่ ๆ ซึ่งอาจจะให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้ดีกว่าขณะนี้ก็ได้ ทางที่ถูกควรจะสรุปเพียงว่า “เรายังรู้ไม่ได้”
“ไม่มีพระเป็นเจ้า เพราะจนป่านั้นนักปราชญ์ยังลงเอยไม่ได้” ก็มีอะไรบ้างเล่าที่นักปรัชญาลงเอยกันได้แล้วการที่นักปรัชญามีความเห็นกันไปต่างๆ เช่นนี้เป็นนิมิตอันดีเสียอีกว่า มนุษย์เราอยู่ในสภาพที่มีเสรีภาพในความคิดและสามารถคิด ในขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นว่าความรู้ของมนุษย์เราเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นที่น่าพึงพอใจ ยังมีโอกาสให้ผู้มีปัญญาได้ใช้ความสามารถของตนให้เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติต่อไป
“เชื้อโรคไม่มี เพราะฉันมองไม่เห็น” ผู้ทีอ้างเช่นนี้ขอให้ระวังตัวไว้จงดี กลืนมันเข้าไปมาก ๆ มันจะทำพิษเอา อย่าให้เป็นเหมือนนกกระจอกเทศเล่ากันว่าพอมันได้ยินเสียงผิดปกติมันมันจะรีบเอาหัวซุกในทรายเมื่อมองไม่เห็นศัตรูแล้วก็คิดว่าตัวเองปลอดภัยนั่นคืออนุมานเอาว่า “ฉันมองไม่เห็นศัตรู เพราะฉะนั้นศัตรูไม่มี” นายพรานจะเล็งยิงเอาตามสบาย
อ้างความรู้ของผู้อื่น คืออ้างว่าคู่ต่อสู้ไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นข้อเสนอของเราถูกต้อง เช่น
1. “คุณเรียนหนังสือแค่ประถมสี่ คุณจะเข้าใจได้อย่างไรว่าเส้นตรงอาจจะยาวกว่าเส้นโค้งก็ได้”
2. “คุณไม่เคยเข้าวัดฟังธรรมเลย คุณอย่ามาค้านเรื่องโลกหน้าดีกว่า”
3. “คุณไม่เคยเรียนมา เพราะฉะนั้นให้เชื่อเถิดว่ามนุษย์ต้องสืบเชื้อสายมาจากลิงแน่ๆ”
