Aristotle on Unmoved Mover “อจลจลากร” ของอร์เริสทาทเถิล
ผู้แต่ง : เอนก สวุรรณบัณฑิต
ผู้ปรับแก้ : กีรติ บุญเจือ
ระบบเครือข่ายของแอเริสทาเทิล (ไม่ว่าจะเป็นระบบความเป็นจริง ระบบความคิด และระบบภาษาซึ่งรวมกันเป็นไตรภาคีของวจนศูนย์นิยม) ล้วนแต่มีรายละเอียดปลีกย่อยลดหลั่นกันเป็นฐานันดรอย่างมีระเบียบ เช่นธาตุมี 5 ธาตุ คือดิน น้ำ ลม ไฟ และอีเธอร์ 4 ธาตุแรกแม้จะเรียงจากต่ำมาหาสูงตามลำดับ แต่ก็อยู่ในโลกนี้ มีความโน้มเอียงที่จะเสื่อมสลายและอยู่นิ่ง จำเป็นต้องได้รับพลังจากอีเธอร์ธาตุที่ 5 ที่เป็นธาตุบนฟ้า ธาตุอีเธอร์บริสุทธิ์จะอยู่วงนอกสุดของท้องฟ้า เป็นธาตุที่ไม่เสื่อมสลายนิรันดร มีพลังเคลื่อนหมุนเป็นวงกลมตลอดกาล ให้พลังและการเคลื่อนแก่ธาตุในโลกนี้ จิตก็มีฐานันดรจากต่ำสุดคือสัญชาตญาณชีวิต สูงขึ้นเป็นสัญชาตญาณสัตว์ จิตมนุษย์มีปัญญาปนสัญชาตญาณ จิตเทพไร้สัญชาตญาณจึงเป็นจิตบริสุทธิ์ แต่ก็มีฐานันดรจากคุณภาพไม่สมบูรณ์สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงจิตที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วนอย่างไม่มีขอบเขตคือพระเจ้าผู้ทรงเป็นสาเหตุแรกหรือปฐมเหตุ (the First Cause) ของทุกสิ่ง ซึ่งแอเริสทาเทิลถือว่าอยู่ถัดจากอีเธอร์บริสุทธิ์ออกไปอย่างไม่มีขอบเขต องค์ปฐมเหตุเป็นสาเหตุให้เกิดอีเธอร์และการเคลื่อนนิรันดร แอเริสทาเทิลจึงเรียกสาเหตุแรกนั้นว่าผู้เคลื่อนที่ไม่ถูกเคลื่อน (the Unmoved Mover) หมายความว่าเป็นผู้ให้การเคลื่อนแก่ทุกสิ่ง โดยตัวเองไม่ต้องรับการเคลื่อนจากแหล่งใดอื่นอีกแล้ว เพราะไม่มีแหล่งใดอื่นนอกจากฐานันดรที่ระบุมานี้ ถ้าจะบัญญัติศัพท์ก็น่าจะเป็น “อจลจลกร” จึงเป็นปฐมเหตุของทุกสิ่ง
ให้สังเกตคำสอนว่า ธาตุ 4 มีแนวโน้มที่จะหยุดนิ่งและสลายตัวโดยอัตโนมัติหากปล่อยไว้ตามลำพัง เพราะมีธรรมชาติเป็นอย่างนั้นเอง แต่ก็มีผู้เคลื่อนที่ไม่ถูกเคลื่อนค้ำประกันไม่ให้เสื่อมสลายตลอดไป นับว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะขัดกับทฤษฎีแรงเฉื่อยและทฤษฎีความถาวรของสสาร ซึ่งเป็นหลักการแม่บทของดิมาเครอเทิสและหวนกลับมาเป็นคำสอนของนักนวยุคนิยมส่วนมาก
คนก็มีคุณภาพลำดับขั้นเป็นฐานันดรจากทาส คนต่างชาติ ชาวกรีก แอเริสทาเทิลแนะนำกษัตริย์แอลิกแซนเดอร์ว่า เมื่อมีอำนาจแล้วให้ระวังอย่าให้คนเชื้อสายกรีกแต่งงานกับคนชาติอื่น ลูกเกิดมาจะเสื่อมคุณภาพ ส่วนสตรีนั้นมีคุณภาพต่ำกว่าบุรุษในทุกชั้นของฐานันดร เพลโทว์ก็เคยคิดเช่นนั้น โดยถือว่าความรักระหว่างเพศชายด้วยกันมีความสูงส่งกว่าความรักต่อสตรีเพศ และความรักระหว่างสตรีเพศตามลำดับ ทั้งนี้เพราะเชื่อว่าสตรีนั้นไม่มีความสามารถเข้าใจความรักระดับปัญญา ไม่สามารถเข้าใจปรัชญา ในสาธารณรัฐของเพลโทว์จึงไม่มีโครงการรับสตรีเข้าเรียนปรัชญาอันสงวนไว้สำหรับบุรุษที่มีอายุถึง 40 ปี และแสดงความสามารถใช้ปัญญาได้หลักแหลมเท่านั้น ส่วนแอเริสทาเทิลก็ถือว่าสตรียากที่จะตัดสินใจอะไรได้อย่างถูกต้อง เพราะสมรรถภาพรู้และคิดขึ้นไม่ถึงระดับปรัชญา จึงต้องอยู่ในความควบคุมของบุรุษเสมอ
แอเริสทาเทิลไม่ละเลยประเด็นที่เพลโทวได้ริเริ่มไว้ คือเรื่องความประพฤติดี สังคมดี และศิลปกรรมดี ความประพฤติดีได้แก่การเลือกวิถีที่ถูกต้องเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ถูกต้อง หากมีความขัดแย้งกันก็ต้องเลือกที่เสียหายน้อยที่สุด โดยพิจารณาจากฐานันดรแห่งสิ่งดี สังคมที่ดีเป็นผลจากการได้ผู้ปกครองที่รู้จักปกครอง คือรู้จักวิธีนำสังคมสู่ความสมบูรณ์สูงสุดเท่าที่จะทำได้ตามฐานันดร กล่าวคือไม่ดึงดันให้ได้ความดีสูงเกินความเป็นไปได้ของสังคม และไม่ปล่อยปละละเลยให้เสื่อมทรามลงต่ำกว่าระดับที่น่าจะดีได้ ส่วนความงามคือความสามารถสร้างความอิ่มเอิบใจ
อย่างไรก็ตาม เท่าที่พิจารณากันมานี้เป็นทรรศนะของแอเริสทาเทิล ซึ่งแสดงความพยายามที่จะเอาชนะสัญชาตญาณสู่โลกาภิวัตน์ได้เปราะหนึ่ง ท่านผู้อ่านจะเห็นด้วยหรือไม่แค่ไหนก็ได้ ความบกพร่องยังมี เราจะพิจารณาดูความพยายามของนักปราชญ์ต่อไปว่าจะเห็นและแก้ไขในประเด็นใดในอันดับต่อไป


Leave a comment