ปรัชญาภิรมย์(31)
กีรติ บุญเจือ
แอร์เริสทาทเถิลเป็นนักปรัชญาค้างฟ้า
แฟนคลับ: สังเกตได้นะคะว่า ไม่ว่าจะเรียนวิชาใด หากมีการเกริ่นนำ ท้าวความถึงความเป็นมา จะต้องกล่าวถึงแอร์เริสทาทเถิล(Aristotle)ว่าได้มีการกล่าวถึงเนื้อหาของวิชานั้นว่าอย่างไร แอร์เริสทาเถิลทำไมถึงได้เก่งอย่างนั้นคะ รู้ได้อย่างไรล่วงหน้าตั้ง 2,000 กว่าปีว่าในอนาคตจะมีการศึกษาวิชาต่างๆเหล่านั้น ในสมันนั้นมีการสอนวิชาต่างๆอย่างสมัยนี้แล้วหรือคะ
ผม: มีบางวิชาเท่านั้นแหละครับที่มีโรงเรียนสอนเพื่อรู้ไปประกอบอาชีพโดยตรง เช่น โรงเรียนกฎหมายเพื่อเป็นนักการเมือง โรงเรียนศาสนาเพื่อสอนเรื่องเทพ น้ำพระทัยของเทพ (พัฒนาเป็นโหราศาสตร์) และวิธีเอาใจเทพ พัฒนาเป็นพิธีบวงสรวง วิชาช่างต่างๆเพื่อรับจ้างทำงานช่าง วิชาดนตรีและนาฏศิลป์เพื่อการแสดง ส่วนที่เป็นเนื้อหาวิชาต่างๆถือว่าเป็นส่วนหนึ่งๆของปรัชญาซึ่งภาษากรีกphilosophiaแปลว่าความอยากรู้อยากเรียนอยากฉลาด ใครอยากอย่างนี้ก็ไปหาเรียนได้จากสำนักปรัชญาซึ่งแล้วแต่เจ้าสำนักว่าจะมีการสอนอะไรที่ถือว่าทำให้ฉลาดกว่าคนทั้งหลาย ในห้วงความรุ่งเรืองของอารยธรรมกรีก(Hellenist) และอารยธรรมกรีก-โรมัน(Hellenistic) สำนักอย่างว่านี้มีอยู่ทั่วไปสำหรับตอบสนองผู้อยากรู้อยากเรียนอยากฉลาด แต่ก็มีสำนักต้นแบบของผู้ก่อตั้ง(founder-school)อยู่เพียงประมาณ10สำนัก นอกนั้นเป็นสำนักขยาย(extended-school) สำนักของแอร์เริสทาทเถิลณกรุงเอเธนส์นับว่าให้ความรู้ครอบจักรวาลที่สุดและเป็นระบบที่สุดซึ่งเห็นได้จากหลักฐานที่มีให้ศึกษาได้อย่างดี คือตำราและบันทึกคำบรรยายวิชาแต่ละวิชาที่ลูกศิษย์บันทึกไว้ช่วยความจำ ซึ่งสังเกตได้ว่าแอร์เริสทาทเถิลเจ้าสำนัก แบ่งเนื้อหาที่อยากรู้อยากเรียนอยากฉลาด ตามโครงสร้างของภาษาอารยันนั่นเองซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.กระบวนการคิดที่ทำให้เกิดความรู้คือตรรกวิทยา 2.ผลจากกระบวนการคิดที่เป็นความรู้ซึ่งแบ่งออกเป็นภาคส่วนต่างๆ 3.การประยุกต์ความรู้ทำให้เกิดคุณค่าต่างๆ ซึ่งแต่ละส่วนก็แบ่งเนื้อหาออกเป็นวิชาๆซึ่งเมื่อรวมกันเข้าก็ถือได้ว่าครอบคลุมสาขาใหญ่ๆของความรู้ปัจจุบันเกือบจะครบถ้วน แน่นอนว่าแต่ละวิชาของแอร์เริสทาทเถิลล้วนแต่มีศักยภาพที่จะแยกย่อยลงไปตามความต้องการของทุกยุคทุกสมัยได้ มีอยู่เรื่องเดียวที่ขยายไม่ออก ต้องปรับลูกเดียวแล้วเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ คือ ความรู้ว่าดวงอาทิตย์โคจรรอบโลกทำให้โลกเป็นศูนย์กลางของดวงดาวทั้งหมดในท้องเวหา ไม่เชื่อก็มาสำรวจงานเขียนของแอร์เริสทาทเถิลเท่าที่มีให้ศึกษาได้ แล้วจึงค่อยเดินหน้ากันต่อไป จะดีไม้
แฟนคลับ: ก็ดีเหมือกันค่ะ พวกเราที่ไม่ได้เรียนปรัชญามาก็ฉงนฉงายกันมิรู้วาย เพราะจะเรียนวิชาไหนๆ ครูก็บอกว่าวิชานั้นมีกำเนิดมาจากแอร์เริสทาทเถิลกันทั้งนั้น ตกลงแอร์เริสทาทเถิลเป็นนักวิชาการด้านไหนกันแน่คะ หรือว่าเป็นดาวค้างฟ้าเพราะเชี่ยวชาญหมดทุกวิชาเลย จะเป็นไปได้หรือคะ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองอย่างชอบธรรม ก็ยังทรงจำกัดบทบาทการสั่งสอนของพระองค์ในขอบข่ายของศาสดาศาสนาคือวิธีพ้นทุกข์ พระองค์ไม่ทรงรับพันธะตอบความรู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพ้นทุกข์ แล้วแอร์เริสทาทเถิลเป็นใครกันคะ จึงจะอาสาตอบทุกปัญหาเป็นดาวค้างฟ้าตลอดกาล ไม่ได้ถามเอาเรื่องนะคะ แต่อยากรู้เท่านั้นแหละค่ะ
ผม:เอาละครับ เรามาดูผลงานของแอร์เริสทาทเถิลกันก่อนดีไหมครับ ต่อจากนั้นค่อยมาเคลียร์ปัญหาของคุณแฟนคลับ ม่ายงั้นพูดกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ ตกลงนะครับ
เกี่ยวกับตรรกวิทยา
- CategoriaeหรือCategeriesหรือ ประเภท (ว่าด้วยการจัดระเบียบความคิดตามโครงสร้างของภาษาอารยัน)
- De Interpretationeหรือ On Interpretation (ว่าด้วยการตีความ หรือทำประโยค เหตุผลที่ประกอบกันเป็น รูปนิรนัยเพื่อวิเคราะห์เหตุผล)
- AnalyticaPriora หรือ Prior Analytics (ว่าด้วยอนุมาน หรือความสมเหตุสมผลของรูปนิรนัย)
- AnalyticaPosteriora หรือ Posterior Analytics (ว่าด้วยการพิสูจน์ ที่หวังผลในการจูใจให้เชื่อได้)
- Topica หรือ Topics (ว่าด้วยการพิสูจน์ที่น่าจะเป็น)
- De SophisticisElenchisหรือ Sophistical Fallacies (ว่าด้วยเหตุผลวิบัติระดับเซียน)
เกี่ยวกับอภิปรัชญา
- Metaphysicaหรือ Metaphysics (อภิปรัชญา ว่าด้วยสิ่งมีอยู่ทั่วๆไปหรือความเป็นจริง)
- De Melisse, Xenophanes, Gorgia(ว่าด้วยนักปรัชญาเมอลิสสิ, เสอนาฟเฝอนิส, กอร์เกีย)
เกี่ยวกับสาขาปรัชญา
- Physica หรือ De Natura หรือ On Physics (ว่าด้วยธรรมชาติ ของสสาร)
- Meteorologica หรือ Meteorology (อุตุนิยมวิทยา ว่าด้วยบรรยากาศของโลก)
- De Mundo หรือ Cosmology(ว่าด้วยโลก)
- De Anima หรือOn the soul (ว่าด้วยวิญญาณ หรือสิ่งมีชีวิตอย่างรวมๆ)
- ParvaNaturalia หรือ the Little Naturals (ธรรมชาติฉบับจิ๋ว)
- De Spiritu หรือ On the Spirit (ว่าด้วยจิตวิญญาณหรือว่าด้วยปัญญาความคิดของมนุษย์)
- HistoriaAnimalium หรือ History of Animals (ว่าด้วยสัตว์ หรือสัตววิทยา)
- De PartibusAnimalium หรือThe Parts of Animals (ว่าด้วยสัตววิภาค)
- De Motu หรือ On Motion (ว่าด้วยการเคลื่อนที่ของสสาร)
- De IncessuAnimalium (ว่าด้วยการผสมพันธุ์สัตว์)
- De GenerationeAnimalium หรือ On Generation of Animals (ว่าด้วยกำเนิดของสัตว์)
- De Problemate หรือ Problems (ว่าด้วยปัญหา แยกจากคำถาม)
- De Coloribus หรือ On Colors (ว่าด้วยสี ของสสาร)
- De Audibilibus หรือ On Audibles(ว่าด้วยสิ่งที่ได้ยิน หรือวิชาโสตวิทยา)
- De Physiognomonica (ว่าด้วยนาฬิกาแดด)คือศึกษาการโคจรของดวงอาทิตย์รอบโลก
- De Plantis หรือ On the Plants (ว่าด้วยพืช)
- De MirabilibusAuscultationibus หรือ On Astonishing Hearings (ว่าด้วยการได้ยิน)
- De Mechanica หรือ On Mechanics (ว่าด้วยกลศาสตร์)
- De LineisInsecabilibus หรือ On Uncutbable Lines (ว่าด้วยเส้นที่แบ่งไม่ได้ คือเรื่องอนันตภาค infinitesimal)
- 20.Ventorum Situs et Cognomina หรือ The Site of the Winds and Names (แหล่งและชื่อของลม)
เกี่ยวกับปรัชญาประยุกต์
- EthicaNicomacheaหรือ NicomacheanEhtics(จริยศาสตร์นีเขอเมเขียน ว่าด้วยคุณภาพของความประพฤติของมนุษย์หรือการครองตน)
- Magna Moralia หรือ Great Morals (ศีลธรรมฉบับใหญ่)
- EthicaEudemica or Eudemean Ethics (จริยศาสตร์เยอดีเมียน ว่าด้วยความสุขของมนุษย์)
- Politicaหรือ On Politics(รัฐศาสตร์ ว่าด้วยการปกครองคนในบังคับบัญชา)
- Oeconomica หรือ On Economics(ว่าด้วยการปกครองคนในบ้านให้ผลิตผลอันเป็นพื้นฐานของเศรษฐศาสตร์)
- AtheniensiumRespublica หรือ the Athenian Republic (สาธารณรัฐของชาวเอเธนส์)
เกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์
- De RhetoricaOn Rhetoric (ว่าด้วยวาทศิลป์ โดยเน้นจิตวิทยาแห่งการจูงใจ)
- De Rhetorica ad Alexandrum หรือ On Rhetoric for Alexander (ว่าด้วยวาทศิลป์ถวายความรู้แด่พระเจ้าแอลเลิกแซนเดอร์)
- De Poetica หรือ On Poetics (ว่าด้วยการกวี โดยเน้นวิชาสุนทรียศาสตร์)
แฟนคลับ: พอจะเห็นแล้วค่ะว่าแอร์เริสทาทเถิลเป็นนักรู้เชิงวิชาการ เป็นเจ้าสำนักแบบสำนักตักศิลา ไม่ใช่ศาสดาศาสนา
ผม: อยู่กันคนละมิติ ทำหน้าที่กันคนละบทบาท พระพุทธเจ้าทรงเป็นดาวค้างฟ้าทางศาสนาที่เน้นการพ้นทุกข์ทั้งโลกนี้และโลกหน้าด้วยวิธีช่วยตัวเองโดยไม่ทรงห้ามพึ่งบารมีของพระองค์และของอารยบุคคล ส่วนแอร์เริสทาทเถิลเป็นดาวค้างฟ้าทางวิชาการ ในสมัยนั้นความรู้ทุกอย่างถือว่าเป็นปรัชญาได้หมด เพราะถือว่าล้วนแต่เป็นผลจากความอยากรู้อยากเรียนอยากฉลาด ที่เราแบ่งเป็นวิชาโน้นวิชานี้ในขณะนี้ก็เพราะเรามาแบ่งกันเองทีหลังเพื่อสะดวกในการจัดการเรียนการสอนครับ บังเอิญปรัชญาของแอร์เริสทาทเถิลเปิดทางไว้ให้คนรุ่นต่อมาค้นคว้าต่อได้รอบด้านจนแทบจะไม่มีที่ว่างให้บุกเบิกใหม่ถอดด้ามจึงต้องยกย่องว่าเป็นผู้มีวิสัยทรรศน์รอบตัวที่สุดในบรรดานักวิชาการซึ่งอยู่คนละระดับกับศาสดาศาสนาซึ่งเป็นอีกเรื่องหนี่งทึ่ต้องพิจารณากันในอีกมิติหนึ่ง เอามาปนกันจะยุ่งเหยิงเป็นยุงตีกัน ที่ยากหน่อยก็คือเรื่องปรัชญาในคำสอนของศาสนา และนักปรัชญาที่พูดถึงศาสนา ก็ต้องเอาไว้พิจารณาในอีกส่วนหนึ่งต่างหาก เรื่องเหล่านี้เราคุยกันทุกวันอาทิตย์ในวิชาสัมมนาปรัชญาและจริยศาสตร์ของหลักสูตรป.เอกปรัชญาทุกวันอาทิตย์ เวลา10.00-16.00 น.ที่อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ม. ราชภัฏสวนสุนันทา ผู้สนใจขอร่วมฟังและถามปัญหาได้ ไม่เก็บค่าใช้จ่ายจากผู้สนใจร่วมฟัง ผู้ต้องการปริญญาเอกจึงต้องลงทะเบียนและจบปริญญาโทสาขาใดก็ได้ โทร.ถามรายละเอียด ศ.กีรติ 086-0455299
