ผศ.(พิเศษ) ดร.เอนก สุวรรณบัณฑิต;
การพัฒนาคุณภาพชีวิตในระดับบุคคลในมุมมองเชิงปรัชญานั้นไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การมีชีวิตที่สะดวกสบายทางวัตถุเท่านั้น แต่รวมถึงความเป็นอยู่ที่ดี (well being) ทางจิตใจ ปัญญา และศีลธรรม ซึ่งทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอย่างมีความหมายและเจริญก้าวหน้าในฐานะปัจเจกบุคคล
ร่อยรอยความคิดทางปรัชญาที่เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต เริ่มตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ อริสโตเติล มองผ่านความเจริญงอกงามของมนุษย์ (Eudaimonia) โดยเชื่อว่า การมีชีวิตที่ดีต้องนำไปสู่ยูไดโมเนีย (Eudaimonia) ซึ่งหมายถึง การบรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเอง
คุณภาพชีวิตไม่ได้วัดจากความสุขแบบเพลิดเพลิน (pleasure) หรือการมีทรัพย์สิน แต่พิจารณาจากการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณธรรม (Virtue) และปัญญา (Wisdom) การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวคิดของอริสโตเติล จึงได้แก่ การฝึกฝนคุณธรรมต่าง ๆ เช่น ความกล้าหาญ ความยุติธรรม ความอดทน และการใช้เหตุผล
ลัทธิสโตอิกมองว่าการพัฒนาตนเองที่แท้จริงคือ การควบคุมตนเองและการยอมรับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เซเนกา (Seneca) และ มาร์คัส ออเรลิอุส (Marcus Aurelius) เชื่อว่าการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกิดจากการควบคุมอารมณ์และตัดสิ่งรบกวนภายนอก สิ่งสำคัญคือ การแยกแยะระหว่างสิ่งที่ควบคุมได้กับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ และใช้เหตุผลในการดำเนินชีวิต คุณภาพชีวิตที่แท้จริงเกิดจากความสงบภายใน (Ataraxia) และการใช้ชีวิตตามธรรมชาติ (Living in accordance with nature)
ลัทธิอัตถิภาวนิยมในศตวรรษที่ 20 มองการพัฒนาตนเองว่าคือการที่บุคคลสร้างความหมายของชีวิต ฌอง-ปอล ซาร์ต (Jean-Paul Sartre) และ วิคเตอร์ แฟรงเคิล (Viktor Frankl) เน้นว่า ชีวิตไม่มีความหมายโดยกำเนิด แต่เราต้องสร้างความหมายให้กับมันด้วยตนเอง คุณภาพชีวิตพัฒนาได้โดยการตระหนักถึงอิสรภาพของตนเอง (self-liberation) และการรับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง แฟรงเคิลยังกล่าวว่าแม้ในสถานการณ์ที่โหดร้าย มนุษย์ก็ยังสามารถค้นหาความหมายของชีวิตและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้หากเขาพบเหตุผลในการมีชีวิตอยู่
พุทธปรัชญาก็มีแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง โดยบุคคลพึงมุ่งความไม่ยึดติดและการพัฒนาภายใน ในมุมมองของพระพุทธศาสนา คุณภาพชีวิตไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอก แต่เกิดจากการลดละกิเลสและขจัดความทุกข์ การพัฒนาคุณภาพชีวิตในระดับบุคคลคือ การฝึกฝนอริยมรรค ผ่านการประมวลเป็นไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งช่วยให้จิตสงบและมีสติ ทั้งนี้ การปล่อยวางและการทำสมาธิช่วยให้บุคคลมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยไม่ต้องพึ่งพาความสุขทางวัตถุ
ในทางปรัชญานั้น มองว่าการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระดับบุคคลตามแนวทางปรัชญา ได้แก่
- การพัฒนาตนเอง ฝึกฝนคุณธรรม ความรู้ และทักษะที่ทำให้เราเติบโตเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้น
- การควบคุมอารมณ์ มีสติและรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง ไม่ยึดติดกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
- การมีเป้าหมายและความหมายในชีวิต ค้นหาสิ่งที่มีคุณค่าและเดินไปในทิศทางที่สอดคล้องกับมัน
- การใช้ชีวิตอย่างสมดุล ไม่เน้นแต่ความสุขชั่วคราว แต่สร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับจิตใจ
- การพึ่งพาตนเองและการรับผิดชอบต่อชีวิตตนเอง – ตระหนักว่าตัวเราคือผู้กำหนดคุณภาพชีวิตของเราเอง
การพัฒนาตนเอง คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตในระดับบุคคล
จากรากฐานแนวคิดปรัชญาเหล่านี้ จิตวิทยาพัฒนาการเองก็ได้มีแนวคิดที่ใกล้เคียงกัน คือ แนวคิดการพัฒนาตนเอง (self development) ซึ่งอัลเฟรด แอดเลอร์ (Alfred Adler 1870-1937) ซึ่งเคยร่วมงานกับซิกมุนด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) ผู้เป็นแพทย์และนักจิตวิเคราะห์ ต่อมาได้แยกออกมาตั้งแนวคิดจิตวิทยาแบบปัจเจกบุคคล (Individual Psychology) ที่เน้นการพัฒนาตนเองและทฤษฎีบุคลิกภาพ ได้แสดงมุมมองที่เป็นรากฐานของแนวทางการพัฒนาตนเองไว้ว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคมโดยธรรมชาติ และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาตนเอง
แต่มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความรู้สึกด้อยค่า (inferior feeling) เนื่องจากในวัยเด็ก เรายังอ่อนแอและต้องพึ่งพาผู้อื่น ความรู้สึกด้อยค่านี้เป็นแรงผลักดันให้มนุษย์พยายามพัฒนาตัวเองเพื่อเอาชนะข้อจำกัด หากบุคคลไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกด้อยค่านี้ได้อาจนำไปสู่การมีปมด้อย (inferiority complex) ซึ่งนำไปสู่การเกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงความท้าทาย หรือพยายามควบคุมผู้อื่นเพื่อชดเชยความอ่อนแอของตนเอง
อย่างไรก็ตาม ในการเติบโต มนุษย์ทุกคนมีแรงจูงใจในการพัฒนาตัวเองเพื่อให้เหนือกว่าสถานะเดิม (striving for superiority) ซึ่งไม่ใช่เพื่อแข่งขันกับผู้อื่น แต่เพื่อบรรลุศักยภาพของตนเอง หากบุคคลใช้พลังนี้ไปในทางบวกก็จะสามารถพัฒนาตัวเองและมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างสร้างสรรค์ แต่หากใช้ไปในทางลบก็อาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ต้องการครอบงำผู้อื่น หรือกดขี่ผู้อื่น
ในการดำเนินชีวิต มนุษย์มีการกำหนดเป้าหมายของชีวิต (life goal) ซึ่งจะพัฒนาผ่านรูปแบบการใช้ชีวิต (life style) ที่เป็นของตนเอง ตั้งแต่วัยเด็ก โดยขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการรับรู้ของตนเองต่อโลก และเป็นตัวกำหนดวิธีที่บุคคลนั้นจะใช้ในการเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคในชีวิต คนที่มีเป้าหมายชีวิตเชิงบวกและเป็นประโยชน์ต่อสังคมจะมีแนวโน้มการมีชีวิตที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ แต่คนมีมีเป้าหมายในชีวิตเชิงลบ บุคคลนั้นก็จะมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวมากเกินไป และมักมีปัญหาด้านจิตใจและความสัมพันธ์ ดังนั้น หากบุคคลมีส่วนร่วมในสังคมและช่วยเหลือผู้อื่นก็ถือเป็นสัญญาณว่าบุคคลนั้นมีจิตใจที่สมดุล
สรุป
แนวคิดในการพัฒนาตนเองนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระดับบุคคลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระดับสังคม ไม่แยกจากกันเนื่องจาก มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ต้องพึ่งพาสังคม และการเข้าใจในตนเองผ่านแนวคิดจิตวิทยาเรื่องปมด้อยและการแสวงหาความเหนือกว่าก็จะทำให้เข้าใจพฤติกรรมและภาวะทางจิตใจของแต่ละคนได้ ซึ่ง แนวคิดเรื่องการเอาชนะข้อจำกัดของตนเองและการมีเป้าหมายชีวิตนั้นเป็นส่วนที่สำคัญและมีอิทธิพลต่อการพัฒนาตนเองและนำไปสู่การอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข

