อ.ดร.สิริกร อมฤตวาริน
เศรษฐกิจของรัฐมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงของสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐมักถูกมองผ่านเลนส์ของนโยบายการเงิน การลงทุน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม การพิจารณาแนวทางเหล่านี้ควรคำนึงถึงความยั่งยืน ความสมดุลของสังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน
การวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจควรอาศัยมุมมองเชิงปรัชญาซึ่งทำให้เห็นผลกระทบระยะยาวต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งในประชาชนอย่างสมดุล การประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและปรัชญาขงจื้อ เป็นแนวทางเลือกที่จะช่วยปรับมุมมองให้รัฐสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้นได้
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงถูกพัฒนาขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมีหลักสำคัญสามประการ ได้แก่
- พอประมาณ – การบริโภคและการพัฒนาต้องไม่เกินความจำเป็น เพื่อป้องกันการเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจและสังคม
- มีเหตุผล – การตัดสินใจและการกระทำต้องอยู่บนพื้นฐานของความรู้และการวิเคราะห์ผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างรอบคอบ
- มีภูมิคุ้มกันในตัว – การสร้างความสามารถ การเตรียมความพร้อม และการพึ่งพาตนเองช่วยให้สามารถเผชิญกับความไม่แน่นอนและวิกฤติ เช่น วิกฤติทางเศรษฐกิจหรือภัยธรรมชาติต่าง ๆ
การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางให้ในการกำหนดด้านเศรษฐกิจ อันได้แก่ การลดรายจ่าย การเพิ่มรายได้ การส่งเสริมออมและระบบเศรษฐกิจที่แข่งขันน้อยลง แต่เอื้ออารีต่อกันมากขึ้น ภายใต้หลักความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดี มีความรู ้และมีคุณธรรม จะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านเศรษฐกิจของประชาชนให้ดีขึ้นได้ หลักการเหล่านี้ส่งผลต่อการกำหนดนโยบายรัฐ โดยเน้นการพัฒนาที่สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน
ปรัชญาขงจื้อ
ปรัชญาของขงจื้อเน้นคุณธรรม การเรียนรู้ และความสัมพันธ์ทางสังคม หลักการสำคัญในการพัฒนามนุษย์และสังคม ได้แก่
- ความเคารพในครอบครัวและสังคม – การให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ครอบครัวและสังคม ช่วยสร้างความมั่นคงและสังคมที่มีความร่วมมือ
- การเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง – ส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
- การปกครองที่ดี – การบริหารที่ยุติธรรมและมีคุณธรรม เสริมสร้างความไว้วางใจจากประชาชน และมีความรับผิดชอบต่อประชาชน
การนำปรัชญานี้มาประยุกต์ใช้กับนโยบายเศรษฐกิจช่วยสร้างสังคมที่มีความร่วมมือและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน
การประยุกต์ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
จากแนวคิดทั้งสองปรัชญา การกระตุ้นเศรษฐกิจสามารถดำเนินการได้ในลักษณะต่อไปนี้
- การส่งเสริมการศึกษาและทักษะ – การลงทุนในมนุษย์ช่วยให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเอง สร้างโอกาสให้ประชาชนเรียนรู้และปรับตัวต่อเทคโนโลยีใหม่ และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ
- สนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) – เพื่อกระจายความเจริญไปสู่ระดับท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และลดความเหลื่อมล้ำ
- การวางนโยบายที่คำนึงถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม เช่น การประกันสังคม การสนับสนุนเกษตรกร
- สร้างความร่วมมือในสังคม – ส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจมีความยั่งยืน
- การสร้างคุณธรรมในการบริหาร – การปกครองที่ยุติธรรมและโปร่งใสช่วยให้การลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
สรุป
การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงและความยั่งยืนของประเทศ แต่รัฐไม่ควรเน้นเฉพาะการเติบโตทางตัวเลขเท่านั้น แต่ควรสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและปรัชญาจีนขงจื้อ เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืน สังคมที่เข้มแข็ง และประชาชนที่มีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง

