อ.ดร.สิริกร อมฤตวาริน
บทนำ
แนวคิดเรื่องอริยะ หรืออารยะ ปรากฏอยู่ในแทบทุกอารยธรรมของมนุษย์ แม้จะใช้คำต่างกันแต่มีสาระร่วมกันคือ การยกจิตใจของมนุษย์ให้สูงขึ้น เหนือความหยาบทางสัญชาตญาณและตัวตน เพื่อเข้าถึงสภาวะที่เป็นความจริงอันบริสุทธิ์และความดีงามอันเป็นสากล ในสังคมอินเดียโบราณ คำว่า Ārya หมายถึง ผู้ประเสริฐ ผู้สูงส่ง ไม่ใช่เพราะชาติพันธุ์หรือชาติกำเนิด แต่เพราะความสูงส่งทางจิตใจ ปัญญาและศีลธรรม ต่อมาในพระพุทธศาสนาได้พัฒนาให้หมายถึงผู้ที่บรรลุธรรมด้วยปัญญา อริยบุคคลจึงหมายถึง ผู้ที่ชนะความต่ำทรามในใจตนเอง และดำรงอยู่ด้วยสภาวะแห่งปัญญาและเมตตา ส่วนในอารยธรรมตะวันตก คำที่ใกล้เคียงคือ Saint, Sage, Prophet หรือ Enlightened Being ซึ่งต่างสะท้อนความเข้าใจร่วมกันว่า มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงภายในจนกลายเป็นสิ่งเหนือสามัญได้
อริยบุคคลในศาสนาและอารยธรรมต่าง ๆ
1. พุทธศาสนา
ในพุทธศาสนา อริยบุคคลหมายถึงผู้บรรลุธรรม มีการจำแนกออกเป็น “สี่คู่แปดบุคคล” ได้แก่ โสดาปัตติมรรค – ผล (ผู้เข้าสู่กระแส) สกทาคามิมรรค – ผล (ผู้กลับมาอีกครั้งเดียว) อนาคามิมรรค – ผล (ผู้ไม่กลับมา) และอรหัตมรรค – ผล (ผู้สิ้นกิเลสแล้ว)
แต่ละขั้นสะท้อนคุณลักษณะของอริยบุคคล คือ การสิ้นไปของสังโยชน์ (กิเลสที่ผูกมัดจิตใจมนุษย์) ที่ผูกพันกับโลกและตัวตน เช่น ความเห็นผิดว่าตัวตน, ความลังเลสงสัย, การยึดมั่นพิธีกรรม เป็นต้นจนถึงที่สุดคือ อรหันต์ผู้สิ้นกิเลสโดยสิ้นเชิง
หน้าที่ของอริยะในโลกนี้คือเป็นพยานแห่งธรรม และกัลยาณมิตรของสรรพสัตว์ ส่วนในโลกหน้า คือ ไม่ต้องเวียนว่ายอีกต่อไป หรือในแนวมหายาน อาจกลับมาเพื่อโปรดสัตว์ในฐานะโพธิสัตว์ (โพธิสัตว์จริยา)
2.ศาสนาฮินดู
อริยะในความเข้าใจของฮินดูคือ อรรถะบุคคล หรือผู้บรรลุโมกษะ (Moksha) ซึ่งหลุดพ้นจากพันธนาการของกรรมและสังสารวัฏ ผ่านหนทางโยคะ 4 ประการคือ ญาณโยคี (บรรลุด้วยปัญญา) ภักติโยคี (บรรลุด้วยศรัทธารักในพระเจ้า) กรรมโยคี (บรรลุด้วยการกระทำอันไม่เห็นแก่ผล) รชะโยคี (บรรลุด้วยสมาธิและการควบคุมตน) ผู้บรรลุโมกษะดำรงอยู่ในภาวะเอกภาพกับพรหมัน มีหน้าที่เผยแผ่ธรรมและเป็นคุรุ (Guru) แห่งความหลุดพ้น สั่งสอนผู้อื่นด้วยกรุณา ไม่ใช่เพื่อผลตอบแทน
3.ศาสนาคริสต์
แนวคิดของอริยะปรากฏในรูปของนักบุญ (Saint) ผู้มีชีวิตศักดิ์สิทธิ์จนสะท้อนพระคุณของพระเจ้า ผู้ดำรงชีวิตด้วยความศักดิ์สิทธิ์และรักในพระเจ้าอย่างสิ้นความเป็นตัวตน นักบุญมิใช่ผู้บรรลุธรรมด้วยตนเอง แต่เป็นผู้ยอมตนให้พระหรรษทานของพระเจ้าแปรเปลี่ยนชีวิตให้บริสุทธิ์ นักบุญเป็นแบบอย่างของความรัก ความศรัทธา ความเสียสละ และการอุทิศตนเพื่อผู้อื่น เชื่อมั่นในพระเจ้า นักบุญได้รับเกียรติในโลกหน้าโดยการอยู่ร่วมกับพระเจ้าในสวรรค์นิรันดร์
4.ศาสนาอิสลาม
อิสลามมีแนวคิดวะลียุลลอฮ์ (Wali Allah) หรือมิตรของอัลลอฮ์ ซึ่งก็คือ ผู้มีศรัทธาอันมั่นคง ปฏิบัติตามชะรีอะฮ์ และเข้าถึงมะอ์ริฟะฮ์ (Ma‘rifah) หรือความรู้แจ้งในพระผู้เป็นเจ้า หน้าที่ของวะลียุลลอฮ์ในโลกนี้คือ การเป็นผู้นำทางศีลธรรม ส่วนในโลกหน้าจะได้อยู่ในสวนสวรรค์อันเป็นรางวัลแห่งการยอมจำนนต่อพระเจ้า
5.เต๋าและขงจื๊อ
ในลัทธิเต๋า อริยะใกล้เคียงกับเซียน (仙) ผู้เข้าถึงเต๋า ผู้หลอมรวมกับเต๋า ปราศจากความขัดแย้งระหว่างตนกับธรรมชาติ ดำรงในเอกภาพกับธรรมชาติ
ส่วนในขงจื๊อคือ จฺวินจื่อ (君子) บุรุษผู้มีคุณธรรมเหนือสามัญชน
ทั้งสองแนวทางเน้นการกล่อมเกลาจิตใจและพฤติกรรมให้สอดคล้องกับหนทางแห่งเต๋าและธรรม และบุคคลจะทำหน้าที่เป็นแบบอย่างแห่งคุณธรรมและผู้สร้างสมดุลของสังคมและจักรวาล
6.จิตวิญญาณนิยมตะวันตก
นักคิดตะวันตกเช่น Emerson, Carl Jung และ Teilhard de Chardin กล่าวถึง ผู้ตื่นรู้ (Enlightened Being) ผู้รวมเหตุผลกับความรัก เป็นสะพานเชื่อมโลกวัตถุกับโลกวิญญาณ ให้มนุษย์พัฒนาจิตสำนึกใหม่ที่รวมเหตุผลกับความรักเข้าด้วยกัน เป้าหมายของผู้ตื่นรู้มิใช่การไปสวรรค์ แต่คือวิวัฒนาการของจิตวิญญาณมนุษย์ทั้งเผ่าพันธุ์
การจำแนกอริยะในเชิงอภิปรัชญา
แนวคิดของอริยบุคคลสามารถจำแนกได้เป็น 3 ระดับใหญ่ ในเชิงอภิปรัชญา คือ
- อริยะเชิงศีลธรรม (Ethical Arya) ผู้มีคุณธรรมสูงกว่าคนทั่วไป ด้วยการควบคุมตนและตั้งอยู่ในธรรม
- อริยะเชิงญาณ (Noetic Arya) ผู้เข้าถึงสัจธรรมด้วยปัญญาเหนืออวิชชา
- อริยะเชิงจิตวิญญาณ (Transcendent Arya) ผู้หลอมรวมจิตกับสภาวะสูงสุด ไม่แยกตนกับสรรพสิ่ง
ระดับเหล่านี้สะท้อนกระบวนการของการยกระดับภายใน ตั้งแต่ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งในทางภววิทยาคือการเปลี่ยนสถานะของการเป็นอยู่ (Being) จากแบบมีเงื่อนไขไปสู่แบบไม่ขึ้นต่อเงื่อนไขใด ๆ ในโลกนี้ อริยะเป็นแสงแห่งปัญญาและกรุณาในสังคม ในโลกหน้า อริยะคือ สัญลักษณ์แห่งการพ้นทุกข์และการอยู่ร่วมกับความจริงอันไม่ดับสูญ
อริยะในเชิงภววิทยา
ในแง่ภววิทยา (Ontological Dimension) อริยะคือ การเปลี่ยนแปลงสถานะของความเป็นอยู่ (Transformation of Being) จากการมีอยู่ในเชิงปรากฏ (phenomenal being) ไปสู่การมีอยู่ในเชิงสัจภาวะ (noumenal being) หรือจากสัตว์ผู้ถูกกำหนดโดยโลกไปสู่ผู้เป็นอิสระเหนือโลก กล่าวอีกนัยหนึ่ง อริยะคือภาวะที่ตัวตนมิได้สูญไป แต่กลายเป็นศูนย์กลางแห่งความรู้แจ้ง ซึ่งมองโลกอย่างไม่มีการแบ่งแยกระหว่างตนและผู้อื่น
ในพุทธภววิทยา อรหันต์หรือโพธิสัตว์คือ ภาวะที่ภาวะของการเป็นอยู่ถูกทำให้บริสุทธิ์ด้วยปัญญา (purified being through wisdom)
ในคริสต์และอิสลาม ภาวะศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญหรือวะลียุลลอฮ์คือ การที่การเป็นอยู่ของมนุษย์ถูกทำให้บริสุทธิ์ด้วยพระหรรษทาน
ในเต๋า ภาวะเซียนคือ การคืนกลับสู่เต๋า ซึ่งเป็นรากฐานของสรรพสิ่ง
อริยะจึงเป็นภววิทยาแห่งเอกภาพ (Ontology of Unity) ที่เชื่อมโยงระหว่างภายในและ ภายนอก, มนุษย์และจักรวาล, โลกนี้และโลกหน้า
อริยะในเชิงญาณวิทยา
ในด้านญาณวิทยา (Epistemological Dimension) อริยะคือ โครงสร้างของการตื่นรู้(Structure of Awakening) ซึ่งเปลี่ยนวิธีรู้จากการรับรู้เชิงอัตวิสัย (subjective knowing) ไปสู่การรู้เชิงจิตวิญญาณ (transcendent knowing) ที่รู้ด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสิ่งที่ถูกรู้
ในพุทธศาสนา ความรู้ของอริยะคือ ญาณทัสสนะ ความรู้เห็นตามความเป็นจริง (ยถาภูตญาณทัสสนะ)
ในคริสต์ ความรู้ของนักบุญคือ การรู้ด้วยความรัก (knowledge through agape)
ในอิสลามคือ มะอ์ริฟะฮ์ การรู้พระเจ้าด้วยการเป็นอันหนึ่งเดียวกับพระองค์
ในเต๋า ความรู้ของเซียนคือ การรู้ด้วยความว่างและความไม่ขัดแย้ง
กล่าวได้ว่า อริยะคือ ผู้ที่เปลี่ยนโครงสร้างของจิตจากผู้แสวงหาความรู้ ไปสู่ผู้เป็นความรู้เอง
| มิติ | หน้าที่ต่อโลกนี้ | หน้าที่ต่อโลกหน้า |
|---|---|---|
| จริยธรรม | เป็นแบบอย่างของความดีงาม การดำรงชีวิตอันบริสุทธิ์ สร้างแรงบันดาลใจทางศีลธรรม | สืบสานผลแห่งกุศล เป็นแรงบันดาลใจในหมู่ผู้ยังเวียนว่าย นำพาผู้อื่นด้วยพลังแห่งกุศล |
| ญาณปัญญา | ถ่ายทอดธรรม ความจริง หรือความรักอย่างไม่แบ่งแยก | ดำรงในภาวะรู้แจ้ง ไม่เวียนว่ายในวัฏฏะ |
| สังคมและวัฒนธรรม | เป็นผู้รักษาสมดุลของโลกและสังคม เป็นกัลยาณมิตรของยุคสมัย | มหายานหรือคริสต์เชื่อว่า อริยะอาจกลับมาเพื่อต่ออายุแห่งธรรม-ความดี |
| อภิปรัชญา | เชื่อมโลกสมมติและโลกปรมัตถ์ | สถิตอยู่ในเอกภาพแห่งความจริงอันไม่เกิดไม่ดับ |
สรุป
แนวคิดเรื่องอริยะเป็นโครงสร้างร่วมของอารยธรรมมนุษย์ที่มุ่งหมายให้มนุษย์เปลี่ยนจากผู้เสพโลกไปสู่ผู้หลอมรวมกับสัจธรรมของโลก อริยะมิใช่เพียงผู้พ้นทุกข์ในความหมายส่วนตัว แต่เป็นภาวะของความรู้แจ้งที่มีหน้าที่ต่อผู้อื่นและต่อโลก อริยบุคคลในแต่ละอารยธรรมคือ ผลรวมของการยกระดับภายในของมนุษย์ให้เป็นหนึ่งเดียวกับภายนอกอันเป็นความเป็นจริงสูงสุด ไม่ว่าจะเรียกว่า ธรรมะ พระเจ้า เต๋า หรือความจริง ก็ตาม
ในเชิงภววิทยา อริยะคือการเปลี่ยนแปลงการเป็นอยู่จากภาวะอวิชชาไปสู่ภาวะแห่งสัจธรรม
ในเชิงญาณวิทยา อริยะคือ การเปลี่ยนแปลงการรู้จากความรู้แบบแยกส่วนไปสู่ความรู้แบบเอกภาพ
ดังนั้น อริยบุคคลจึงเป็น ต้นแบบของมนุษย์เชิงจิตวิญญาณ (Homo Spiritus) เป็นผู้ที่ทำให้ ความดีงามของสากลมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ผู้ที่ทั้งเป็นและรู้อย่างบริสุทธิ์ และทำให้โลกนี้เองกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกหน้า
บรรณานุกรม
- พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (๒๕๓๙). กรุงเทพฯ: มหามกุฏราชวิทยาลัย.
- พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (๒๕๔๙). พุทธธรรม ฉบับปรับปรุงและขยายความ. กรุงเทพฯ: สหธรรมิก.
- Radhakrishnan, S. (1953). The Principal Upanishads. London: George Allen & Unwin.
- Augustine, St. (1998). Confessions. Oxford: Oxford University Press.
- Al-Ghazali, Abu Hamid. (1997). The Alchemy of Happiness. Chicago: Great Books Foundation.
- Lao Tzu. (1963). Tao Te Ching. New York: Penguin Classics.
- Teilhard de Chardin, P. (1955). The Phenomenon of Man. New York: Harper.

