ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอปท.เพื่อประโยชน์สุข… (6)
ศาสตราจารย์กีรติ บุญเจือ
“เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญา”
จากคำนำของหนังสือสมุดบันทึกเศรษฐกิจพอเพียง จัดพิมพ์เผยแพร่โดยสำนักงานประสานงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯพ.ศ.2549 เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี “เป็นประมวลและกลั่นกรองจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพระราชทานในวโรกาสต่างๆ รวมทั้งพระราชดำรัสอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำไปเผยแพร่ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2542 เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของทุกฝ่ายและประชาชนโดยทั่วไป”
ผมได้พบหนังสือเล่มนี้เมื่อต้นปีนี้นี่เองหลังจากที่ได้รับปากกับคุณชาญวิทยา ชัยกูล บรรณาธิการบริหารว่าจะเขียนเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอปท เห็นว่ามีเนื้อหาที่สมควรอัญเชิญมาขยายความตามสายงานของผมที่ได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ปรัชญาและเป็นราชบัณฑิตประเภทวิชาปรัชญาและศาสนา(ไม่จำกัดศาสนา) จึงรู้สึกตระหนักเป็นหน้าที่จะต้องตอบสนองพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นนี้ ด้วยการใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการขยายความเข้าใจสู่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ผมขอเริ่มพันธกิจของผม ณ บัดนี้
ที่ว่า”เป็นปรัชญา”นั้นคือฉันใด เรามาทำความเข้าใจกับคำคำนี้กันเสียก่อนดีกว่า ในทางวิชาการมีการนิยามคำนี้กันมากมาย ส่วนมากก็เพื่อจะประชาสัมพันธ์ความคิดที่ตนต้องการเผยแพร่ พอจะเข้าใจได้ง่ายๆก็มี เข้าใจยากก็มี ที่ไม่อาจเข้าใจได้ก็มี ก็ไม่เป็นไร เพราะเราไม่จำเป็นต้องรู้และเข้าใจปรัชญาทั้งหมดที่มีคนพูด จะรู้ทั้งหมดก็คงไม่ไหว เพราะมีมากมายเกินจำเป็น เลือกรู้ที่น่าสนใจก็น่าจะพอ เราก็เอาพ่อหลวงของเราเป็นหลักก็จะดี เราพยายามเข้าใจปรัชญาของพระเจ้าอยู่หัวของเราเป็นเป้าหมายไว้ก่อนก็แล้วกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่าปรัชญาที่พระองค์กลั่นกรองเลือกสรรหามาสอนเรานั้น ล้วนแต่ช่วยให้เราทำดีมีสุขหรือมีสุขกับการทำดีทั้งสิ้น เอาละ! เมื่อตกลงเป้าหมายกันได้ชัดเจนอย่างนี้ เราก็มาทำความเข้าใจปรัชญาตามพระราชดำริว่า “ปรัชญาคือวิชาว่าด้วยความคิด” คืออย่างนี้ เราอยากรู้เรื่องอะไรเราก็ใช้ความคิดของเราคิดจนเข้าใจได้ว่าเรื่องนั้นเป็นอะไร เช่น เป็นน้ำ เป็นดิน เป็นฟ้า เป็นข้าว เป็นเชื้อโรค ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่ต้องใช้ปัญญาคิดทั้งสิ้น ที่สุดเราจึงต้องมีอีกวิชาหนึ่งโดยเฉพาะที่ไม่สนใจรู้อะไรเลยนอกจากความคิดที่ใช้คิดวิชาต่างๆนั่นแหละ น่าสนใจไหมล่ะ ชักอยากรู้แล้วซีว่าเราเรียนเรื่องความคิดแล้วได้ความคิดอะไรเกี่ยวกับความคิดบ้าง ใช่ไหมล่ะ? เอาละเรารู้ว่าปัญญาของเรามีต่อมคุณธรรมที่รู้ว่าทำดีแล้วมีความสุขอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงบำเพ็ญอยู่และทรงปรารถนาจะสอนเราให้เราเข้าใจเช่นเดียวกันว่าทำดีอะไรก็มีความสุขได้ทั้งนั้นหากมีปรัชญาที่ถูกต้อง หน้าที่ของเราจึงอยู่ที่ต้องช่วยกันวิเคราะห์ดูให้ถ่องแท้ว่าปรัชญาที่ถูกต้องนั้นคือฉันใดเรามาช่วยกันดูตั้งแต่ฉบับหน้าเลยก็แล้วกันว่า ปรัชญาที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องต่างกันอย่างไร จะได้เลือกรู้และใช้ปรัชญาที่ถูกต้องเป็นฐาน
