Aquinas and political philosophy อไควเนิสกับปรัชญาการเมือง
ผู้แต่ง : กันต์สินี สมิตพันธ์
ผู้ปรับแก้ : กีรติ บุญเจือ
ปัญหาสำคัญที่สุดในสมัยของอไควเนิสก็คือปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างศาสนจักรกับอาณาจักร ผู้ที่มีศรัทธาต่อศาสนามักจะโอนเอียงไปในทางยกย่องศาสนจักรเหนืออาณาจักร แต่ศาสนจักรก็ไม่สามารถควบคุมอาณาจักรได้ เพราะไม่มีอำนาจทางทหาร ยิ่งกว่านั้น อาณาจักรมักจะโอกาสแทรกแซงเข้ามาใช้ศาสนจักรเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างฐานอำนาจอยู่เนือง ๆ ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 อาณาจักรนี้จึงเป็นปัญหาของยุคกลางโดยเฉพาะ เอเริสทาเทิลไม่อาจจะเตรียมคำตอบอะไรไว้ให้ได้อไควเนิสต้องขบคิดเองโดยอาศัยวิธีพิจารณาของเอเริสทาเทิลเป็นแนวทาง
อไควเนิสปูพื้นฐานด้วยหลักการของเอเริสทาเทิลสถาบันสังคมจะต้องมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยให้มนุษย์แต่ละคนบรรลุเป้าหมายแห่งชีวิต ในเมื่อเป้าหมายแห่งชีวิตสำหรับอไควเนิสมี 2 ระดับ คือ ระดับตามธรรมชาติและระดับเหนือธรรมชาติ ทั้งนี้มิได้หมายความว่ามนุษย์แต่ละคนมี 2 เป้าหมาย แต่หมายความว่ามีเพียงเป้าหมายเดียว โดยที่ระดับตามธรรมชาติจะต้องสนับสนุนระดับเหนือธรรมชาติ สถาบันสังคมจึงต้องมี 2 สถาบันจะต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พลเมืองซึ่งจะต้องอยู่ในทั้ง 2 สถาบันไม่ประสบความสับสน ในการปฏิบัติตามระเบียบการของ 2 สถาบันอย่างสอดคล้องกัน
อไควเนิสมีความเห็นคล้ายเอเริสทาเทิลว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม คือต้องอยู่ในสังคมโดยจำเป็น เพราะมนุษย์มีความสันทัดไม่เหมือนกัน ไม่มีใครจะอยู่ได้โดยตัวคนเดียวและบรรลุเป้าหมายของชีวิตได้ มนุษย์จำเป็นต้องแบ่งภาระกันรับผิดชอบโดยแบ่งงานกันทำ แต่ในเวลาเดียวกัน มนุษย์แต่ละคนจะต้องเป็นตัวของตัวเอง ใช้เหตุผลของตนเองในการตัดสินใจเลือกการกระทำ สถาบันการเมืองจึงมีขึ้นเพื่อประกันการเป็นตัวของตัวเองของแต่ละคน และประกันการร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพ ในเมื่อสภาบันการเมืองเป็นสิ่งจำเป็นในธรรมชาติของมนุษย์เช่นนี้ ก็แสดงว่าสถาบันการเมืองเป็นสถาบันอิสระตามกฎธรรมชาติและตามแผนการสร้างของพระเป็นเจ้า อไควเนิสจึงไม่เห็นด้วยกับบางคนในสมัยนั้นที่ถือว่า อำนาจการเมืองต้องได้รับมอบหมายจากศาสนจักรแต่กลับคิดว่าสถาบันการเมืองมีอำนาจเป็นอิสระตามกฎธรรมชาติ
รัฐมีอำนาจที่จะสละคนบางคน เพื่อให้คนส่วนมากของรัฐบรรลุเป้าหมายของตน แต่รัฐจะต้องไม่ลืมตน จะใช้พลเมืองเป็นเครื่องมือเพื่อรัฐเป็นเป้าหมายโดยตรงไม่ได้เป็นอันขาด อไควเนิสจึงขัดแย้งกับลัทธิเบ็ดเสร็จนิยม (totalitarianism) ในเรื่องนี้ และถ้าหากรัฐออกกฎหมายขัดแย้งกฎธรรมชาติ เช่น ไม่ส่งเสริมให้แต่ละคนบรรลุเป้าหมายแห่งชีวิตของตน กฎหมายดังกล่าวถือว่าไม่มีผลบังคับและพลเมืองมีหน้าที่ขัดขืนและร่วมมือกันต่อต้านโดยสันติวิธี ทั้งนี้จะต้องมีเหตุผลชัดเจนว่ากฎหมายเป็นเช่นนั้นจริง แต่ถ้ากฎหมายบังคับตามทำนองคลองธรรม ผู้ปฏิบัติตามกฎหมายถือว่าปฏิบัติตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า และผู้ใดเชื่อฟังผู้มีอำนาจของรัฐก็เท่ากับเชื่อฟังพระเป็นเจ้าเอง
อไควเนิสไม่เห็นด้วยกับการล้มทรราชด้วยการกบฏ เพราะจะเกิดความเดือดร้อนมากเกินไปจนไม่คุ้มค่า และมักจะได้ทรราชใหม่ขึ้นแทนทรราชเก่า และจะต้องกบฏล้มล้างกันอย่างไม่รู้จักจบสิ้น สันติวิธีของอไควเนิสต้องทำอย่างไร อไควเนิสมิได้กำหนดไว้ให้ คงจะต้องดูความเหมาะสมเป็นกรณีๆ ไปนั่นเอง
สำหรับอไควเนิสเป้าหมายของการปกครองสำคัญกว่าระบอบปกครอง จะปกครองระบอบใดก็ได้ขอให้มีเป้าหมายที่ถูกต้องก็แล้วกัน แต่อไควเนิสมีความเห็นส่วนตัวว่า ระบอบปกครองโดยมีกษัตริย์เป็นประมุขภายใต้กฎหมายซึ่งออกโดยผู้แทนของราษฎรน่าจะบรรลุเป้าหมายได้ดีที่สุด เพราะเชื่อว่าจะไม่มีการปล่อยปละละเลยและในขณะเดียวกันก็มีการถ่วงดุลอำนาจกันไว้ในตัว
เพื่อบรรลุเป้าหมายเหนือธรรมชาติตามที่พระเป็นเจ้าทรงวางแผนไว้ มนุษย์จำเป็นต้องอาศัยสถาบันที่พระองค์เองได้ทรงตั้งขึ้นคือคริสตจักรเพื่อปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างได้ผล อไควเนิสคิดว่า คริสตจักรจะต้องเป็นสถาบันอิสระจากอำนาจการเมือง และมีอำนาจเพียงพอสำหรับปฏิบัติภารกิจของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากสถาบันศาสนามีเป้าหมายระดับสูงกว่า สถาบันการเมืองจึงมีหน้าที่เกื้อหนุนให้ความสะดวกและช่วยเหลือในเรื่องที่จำเป็น โดยไม่ก้าวก่ายสิทธิและอำนาจของสถาบันศาสนา การใช้สถาบันศาสนาเป็นเครื่องมือสำหรับแสวงหาอำนาจทางการเมืองจึงเป็นนโยบายที่อไควเนิสประณามอย่างยิ่ง


Leave a comment