ผศ.(พิเศษ) ดร.เอนก สุวรรณบัณฑิต

ขวัญ โดยทั่วไปที่รู้จักกันหมายเอา ผม หรือ ขน ที่ขึ้นในลักษณะเวียนเป็นก้นหอย คนส่วนใหญ่จะมีขวัญเพียง 1 ขวัญ แต่ก็มีบางคนที่อาจมี 2 หรือ 3 ขวัญ ส่วนความหมายในทางนามธรรม หมายถึง มิ่งมงคล สิริ หรือความดี แต่เดิมหมายเอาเฉพาะสิ่งมีชีวิต ได้แก่ คนและสัตว์ โดยสื่อรวมไปถึงสิ่งที่มีอำนาจลึกลับที่แฝงอยู่กับร่างกายของคนและสัตว์มาแต่กำเนิด ต่อมาเพิ่มขยายไปถึงที่อยู่อาศัยและอาชีพ เช่น บ้านเรือน ซึ่งมีแกนหลัก คือ ขวัญเสามงคล และการปลูกข้าว ซึ่งข้าวขวัญ เป็นต้น

ขวัญของคนและสัตว์นั้น เชื่อกันว่ามีจำนวนถึง 32 ขวัญ เป็นขวัญที่อยู่ประจำอวัยวะที่อยู่ภายนอกและภายในของร่างกาย เช่น ขวัญคาง ขวัญปาก ขวัญแก้ม ขวัญคิ้ว ขวัญหู ขวัญตา ขวัญแขน ขวัญขา ขวัญมือ ขวัญคอ ขวัญหลัง ขวัญตับ ขวัญไต เป็นต้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นจำนวน 32 ทีเดียว

สำหรับขวัญข้าวมิได้กล่าวถึงจำนวน แต่กล่าวถึงในประเด็นที่ขวัญที่อาจเตลิดไปอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในแดนไกล ขวัญเสามงคลก็มิได้ระบุจำนวนไว้เช่นกัน แต่มองถึงการเสริมความเป็นสิริมงคลของเสามงคลหรือเสาเอกของบ้านเรือนแต่ละหลัง

พิธีกรรม “เรียกขวัญ” หรือ “สู่ข้าว เอาขวัญ” หรือ “บายศรีสู่ขวัญ” เป็นพิธีกรรมที่ใช้กับสัตว์แรงงาน เช่น ช้าง วัว ควาย ข้าวในนา เสามงคล และขวัญคน ด้วยวิธีการส่งเสียงเรียกร้องเป็นทำนองเสนาะ เพื่อเรียกหรือเชิญเอาขวัญที่อาจเตลิดไปให้กลับคืนสู่ร่างกาย เจ้าของขวัญจะได้อยู่ดีมีสุข โดยมีบายศรีที่ถือเป็นเสมือนปราสาทแก้วมงคลหลังงามรองรับขวัญที่ถูกเชิญมา

ความเชื่อในการมีขวัญและเป็นมงคลนี้เองทำให้เกิดความนิยมให้มีพิธีเรียกขวัญในโอกาสต่างๆ เช่น การบวช ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน การส่งผู้ที่จากเดินทางไปต่างแดน การต้อนรับผู้มาเยือน และโอกาสที่บุคคลได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง หน้าที่การงาน ตลอดจนถึงเมื่อเกิดการเจ็บป่วย ก็จะมีการเรียกขวัญเพื่อให้หายป่วย เป็นต้น ในปัจจุบันพบได้บ่อยในการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญเพื่อต้อนรับนักศึกษาใหม่ หรือในบางแห่งจะมีการจัดพิธีในโอกาสจบการศึกษาด้วยเช่นกัน

อภิปรัชญา : ในปรัชญาไทยมองว่า ร่างกาย-จิต คือ พื้นที่ของความสัมพันธ์ ไม่ใช่สิ่งที่แยกกัน ปรัชญาสมัยใหม่มักแบ่งกายและจิตอย่างชัดเจน (mind-body dualism) แต่ในแนวคิดขวัญ 32 มองว่า ขวัญคือ สิ่งอยู่ในตัว แต่เป็นสิ่งกลางระหว่างกายกับจิต ขวัญไม่ใช่จิตวิญญาณ (soul/spirit) แต่เป็นพลังชีวิตหรือองค์ประกอบคล้ายจิตที่สถิตอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ 32 แห่งของร่างกาย ไม่ใช่พลังนิรันดร์แบบอาตมัน ขวัญมีสถานะไม่คงที่ โดยสามารถที่จะ :- มา ไป เคลื่อนย้าย ตก หรือกลับคืนมาได้ด้วยตนเองหรือมีการเรียกกลับมาก็ได้

เมื่อพิจารณาแนวคิดอภิปรัชญาของขวัญ เปรียบเทียบกับแนวคิดหลังนวยุค พบว่า ขวัญคือ fragmented self หรือตัวตนที่แยกส่วนแบบที่ Jean-François Lyotard กล่าวไว้ สะท้อนถึงการไม่มีแก่นแท้ของชีวิต ชีวิตไม่ใช่สิ่งมีศูนย์กลาง (decentralized being) ความเป็นตัวตนจึงไม่แน่นอน และเกิดจากกระบวนการหลายชั้น เช่น ขวัญที่เคลื่อนไปตามบริบท ความกลัว ความเศร้า หรือพิธีกรรม

ญาณวิทยา : ในปรัชญาไทย การรู้เกี่ยวกับขวัญนั้นไม่ได้เกิดจากความรู้ลอย ๆ แต่คือ โครงสร้างของอำนาจภายในตนเองที่แปรเปลี่ยนจิตให้ตระหนักรู้ถึงขวัญ ระบบขวัญเป็นส่วนของการรู้ที่ซ้อนทับระหว่างร่างกาย-จิต-พิธีกรรม เช่น การเราจะรู้ว่าขวัญตกนั้นไม่ใช่เรื่องของความเป็นเหตุเป็นผลในตนเอง แต่คือ การรู้ (ญาณ) ถึงความเปลี่ยนแปลงภายใน เช่น มีอาการตกใจง่าย สะดุ้งตื่นง่าย หรือผวาเมื่อได้ยินเสียงดัง นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท กระสับกระส่าย หรือฝันร้ายบ่อย ๆ กินไม่ได้ เบื่ออาหาร หรือไม่รู้สึกอยากอาหาร ไม่มีสมาธิ ใจลอย ขาดสติ หรือไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ เจ็บป่วยง่าย อ่อนเพลีย หรือไม่สบายบ่อยกว่าปกติ รู้สึกเศร้า หรือหดหู่ โดยไม่มีสาเหตุ เราก็จะรู้ว่า เราเกิดขวัญตก-ขวัญหาย ส่วนญาณของผู้รู้ขวัญ (หมอขวัญ) เป็นการรู้ถึงขวัญของคนอื่นว่าอยู่อย่างไร อยู่หรือตก หรือหนีเที่ยวไปที่อื่น การรู้นี้เป็นส่วนที่ถูกระบบความรู้สมัยใหม่กดทับ (counter-knowledge) เพราะอธิบายไม่ได้ว่ารู้ได้อย่างไร ระบบขวัญ 32 จึงเป็นความรู้ที่ไม่อยู่ในระเบียบความรู้เชิงเหตุผล แต่มีพลังในตนเอง ความรู้เรื่องขวัญจึงอยู่ที่เรารู้จักร่างกาย ความรู้สึก เสียง และพิธีกรรมนั้น ๆ อย่างสัมพัทธ์ต่อกัน

จริยศาสตร์ : หลักความประพฤติดีของปรัชญาไทยคือ การรักษาขวัญให้อยู่ดีมีสุข เป็นแนวคิดของการดูแลชีวิตแบบสัมพันธ์ ไม่ใช่การยึดในกฎศีลธรรมใด ๆ ซึ่งจริยศาสตร์สมัยใหม่มักเน้นกฎ (น้ำหนักของความดี) แต่แนวคิดขวัญ 32 มอง ความดีงามเป็นสิ่งที่เกิดจากความสมดุลของชีวิต ความสงบ ความมั่นคง และการมีขวัญอยู่ครบถ้วน สิ่งที่ไม่ดีจึงไม่ใช่การผิดกฎ แต่เป็นเพราะว่าการกระทำนั้นทำให้ตนขวัญตกหรือทำให้ผู้อื่นขวัญหาย สิ่งที่ดียิ่งกว่าคือ การดูแลปกป้องขวัญของกันและกัน

เมื่อพิจารณาตามแนวคิดหลังหลังยุค พบว่า Michel Foucault พูดถึง ethics of care ซึ่งสนับสนุนการดูแลตนเองและผู้อื่นว่าเป็นจริยธรรมรูปแบบใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเรื่องของการดูแลขวัญนี้เช่นกัน ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างกาย-จิต ตนเองกับผู้อื่น ความอ่อนโยน และความสมดุลในชุมชนที่อยู่อาศัยร่วมกัน ผ่านศิลปะของการใช้ชีวิตแบบมีขวัญ

สรุป ระบบขวัญดีมีผลต่อผู้คนและชุมชนในหลายด้านทั้งในเรื่องของความเชื่อ ประเพณี และวิถีชีวิต การมีขวัญเป็นพลังที่คอยปกป้องคุ้มครองย่อมเป็นสิ่งดี และขวัญที่ดีย่อมนำมาซึ่งความสุข ความเจริญและความเป็นสิริมงคล จึงมีการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจผ่านพิธีกรรมเรียกขวัญ (สู่ขวัญ) เป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้คนมีความเชื่อมั่นในตนเอง กล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา และอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต และมีความสุขในชีวิต พิธีกรรมที่เกี่ยวกับขวัญจะสร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพราะมักจะทำร่วมกันทั้งครอบครัว หรือชุมชน ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน ผลดีต่อชุมชนได้แก่ ระบบขวัญเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีและวัฒนธรรมถิ่นไทยที่มีมาอย่างยาวนาน การสืบสานประเพณีนี้ช่วยรักษาเอกลักษณ์ของชุมชน และพิธีกรรมเกี่ยวกับขวัญ เช่น การทำขวัญข้าว ขวัญเสามงคล ยังช่วยสร้างความสามัคคีในชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนชนบท

บรรณานุกรม

  1. ล้านนาคำเมือง ชมรมฮักตั๋วเมือง. (2564). ขวัญ. สืบค้นจาก https://www.matichon.co.th/weekly/column/article_418919
  2. จิราวัฒน์ นิติบรมัตถ์ธาดา. (2024). ขวัญ:แนวคิดปรัชญาไทย: Kwan : Thai Philosophy Concepts. Journal of the Philosophy and Religion Society of Thailand, 19(2), 1–18. retrieved from https://so04.tci-thaijo.org/index.php/parst/article/view/276340
  3. ญาวิณีย์ ศรีวงศ์ราช. (2544). การศึกษาแนวคิดเชิงปรัชญาเรื่อง “ขวัญ” ในวรรณกรรมพิธีกรรมล้านนา. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, เชียงใหม่, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
  4. พิสิฏฐ์ โคตรสุโพธิ์. (2560). ปรัชญาไทย : ระบบคิดของชาวไทย. สืบค้นจาก https://phil-re4you.blogspot.com/2015/06/blog-post_91.html
  5. สรวิชย์ วงษ์สอาด, สุภีร์ ทุมทอง, พระปัญยารัตนากร, และพระธรรมวชิรเมธี. (2562). วิเคราะห์แนวคิดเชิงปรัชญาชีวิตของไทย. วารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์, 5(2), 47-59.

Leave a comment